ประวัติ ของ เท็นเดอร์กริลล์ ชิกเก้น แซนด์วิช

บีเค บรอย์เลอร์

ในปี 1990 แซนด์วิชไก่ย่างกะทะร้อน (ไก่ย่างประเภทหนึ่งที่การย่างใช้ความร้อนจากด้านบน) เบอร์เกอร์ คิงส์ เริ่มแนะนำให้เป็นที่รู้จักกันในชื่อของ บีเค บรอย์เลอร์[1][2] แซนด์วิชนี้ประกอบไปด้วย ผักกาดหอม มะเขือเทศ ราดด้วยซอสผักชีฝรั่ง เสริฟพร้อม แผ่นข้าวโอ๊ตบดม้วน[3] ซึ่งผลิตภัณฑ์ประเภทไก่ที่ออกมาใหม่นี้ ได้ออกมาเวลาพอดีกับรอบของการเปลี่ยนแปลงสำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทไก่ ในอุตสาหกรรมร้านอาหารพอดี โดยที่ 90 เปอร์เซนต์ของผลิตภัณฑ์ประเภทไก่ที่คิดค้นนี้ ได้ถูกขายให้กับร้านอาหารที่เน้นขายอาหารประเภททอด และไม่นานภายใต้การแนะนำ ทำให้แซนด์วิชนี้ขายดีเกินหนึ่งล้านชิ้นต่อวัน ขายดีกว่าไก่ทอดเคนตั๊กกี้ ฟรายด์ ชิกเก้น[4] ซึ่งที่เป็นที่นิยมในขณะนั้น นอกเหนือไปกว่านั้นแซนด์วิชเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่แนวโน้มอุตสาหกรรมเน้นไปในทางการปรับเปลี่ยนรายการอาหารเป็นอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น ด้วยการปรับปรุงสูตรในการทำอาหารใหม่ๆ หรือการทำเป็นสลัด[5] ซึ่งแซนวิช 1 ชิ้นประกอบไปด้วยพลังงาน 379 แคลลอรี่ และไขมัน 18 กรัม ซึ่ง 10 เปอร์เซนต์ ซึ่งจากทั้งหมดมาจากซอส[6]

บีเค บรอย์เลอร์ หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีการเปิดตัวที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอุตสาหกรรมร้านอาหารขณะนั้น ทำให้บริษัทส่งเสริมให้มีการแนะนำผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมโดยให้สัมพันธ์กับการประสบความสำเร็จของ บีเค บรอย์เลอร์[7] ยิ่งไปกว่านั้นความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ได้รับการยกย่องจากนักวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก เชียร์ซัน เลห์แมน ฮัทตั้น ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ช่วยให้เบอร์เกอร์คิงตระหนักถึงอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น 47% ในช่วงเวลาเดียวกันในปี 1989[8] โดยในปี 1992 การขาย บีเค บรอย์เลอร์ ได้ชะลอตัวลงถึงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับในช่วงของการแนะนำผลิตภัณฑ์ในตอนต้น[9]


ในปี 1998 ทางบริษัทฯ ได้มีการปรับปรุงและคิดค้นสูตร บีเค บรอย์เลอร์ ขึ้นใหม่ โดยปรับไซส์ให้ใหญ่ขึ้น เป็นแซนด์วิชสำหรับคุณผู้ชาย เสริฟพร้อมขนมปังขนาดใหญ่ และนอกเหนือจากการเพิ่มขนาดของแป้ง ในขณะเดียวกันก็มีการปรับในส่วนของส่วนผสมพวกมายองเนส ผักกาดหอม และมะเขือเทศไปด้วยในตัว เบื้องหลังความคิดของการปรับขนาดของผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกดีถึงความคุ้มค่า จากการกล่าวของโฆษกของบริษัท “เมื่อลูกค้าเห็นว่าไซด์มีขนาดใหญ่ขึ้น มันดูคุ้มค่าสำหรับเงินที่เขาจ่ายไป และถ้าเขากินไม่หมด ก็ไม่เป็นไร” การเปลี่ยนแปลงของบริษัทฯ ในครั้งนี้เป็นการปรับให้กลับมาสู่สามัญ ด้วยการจัดรายการอาหารใหม่ เน้นที่ผลิตภัณฑ์หลัก และลดความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์[10]

ชิกเก้น วอปเปอร์ (Chicken Whopper)

An example of the Chicken Whopper Jr. (left) and the Chicken Whopper.

ในปี 2002 เป็นวาระที่วอปเปอร์ แซนด์วิช ครบรอบ 45 ปี บีเคได้แนะนำแซนด์วิชออกใหม่ เรียกกันว่า ชิกเก้นท์ แซนด์วิช และอีกหนึ่งแซนด์วิชที่มีขนาดเล็กกว่าเรียกว่า ชิกเก้นท์ วอปเปอร์ เจอาร์ แซนด์วิช (Chicken Whopper Jr. Sandwich) ที่ประกอบด้วยซีซ่าร์สลัดและเนื้อไก่ไร้มันแบบไม่มีกระดูก[11][12][13] ซึ่ง ชิกเก้นท์ วอปเปอร์ นี้เป็นช่วงแนะนำของบริษัท ก่อนที่จะขยายไปยัง แซนด์วิช วอปเปอร์ เนื้อวัว ซึ่งกลายเป็นต้นตำรับสำหรับในช่วงแนะนำในปี 1950[14] สำหรับแซนด์วิชขนาดใหญ่จะประกอบไปด้วยเนื้ออกไก่ไร้มันน้ำหนัก 4.7 ออนซ์ (130 กรัม) และสำหรับ ชิกเก้นท์ วอปเปอร์ เจอาร์ แซนด์วิช ประกอบไปด้วยเนื้ออกไก่ไร้มันน้ำหนัก 3.1 ออนซ์ (88 กรัม) มายองเนส ผักกาดหอม และมะเขื่อเทศบนแผ่นงา[15] ซึ่งมายองเนสสูตรไขมันต่ำได้นำมาใช้กับช่วงแนะนำนี้ด้วย[16] พร้อมกันนี้แซนด์วิชใหม่ บีเค เว็จจี้ (BK Veggie) และ ชิกเก้นท์ วอปเปอร์ เจอาร์ แซนด์วิช (Chicken Whopper Jr. Sandwich) ของบริษัทได้รับการยกย่องจากศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อประโยชน์สาธารณะ ให้เป็นหนึ่งในสินค้าที่ดีที่สุดมีชื่อเสียงและมีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุดในตลาดอาหารจานด่วน ซึ่งตรงกันข้ามกับ CSPI ประณามส่วนที่เมนูที่เหลือของเบอร์เกอร์คิง ว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก[17]

แหล่งที่มา

WikiPedia: เท็นเดอร์กริลล์ ชิกเก้น แซนด์วิช http://pericles.ipaustralia.gov.au/atmoss/Falcon_D... http://www.ic.gc.ca/app/opic-cipo/trdmrks/srch/vwT... http://www.allbusiness.com/retail-trade/eating-dri... http://www.businessweek.com/bwdaily/dnflash/apr200... http://articles.chicagotribune.com/2002-11-06/ente... http://www.chron.com/CDA/archives/archive.mpl/2002... http://business.highbeam.com/409700/article-1G1-84... http://business.highbeam.com/409700/article-1G1-88... http://www.nytimes.com/1990/03/20/business/getting... http://www.nytimes.com/1990/04/11/garden/eating-we...